นายจาตุวัฒน์ ตุ้ยเต็มวงศ์ ปลัดเทศบาลเมืองเขลางค์นคร ได้รับมอบหมายจากนายไพฑูรย์ โพธิ์ทอง นายกเทศมนตรีเมืองเขลางค์นคร ดูแลเรื่องการก่อสร้างอาคารสำนักงานเทศบาลเมืองเขลางค์นคร  เปิดเผยความคืบหน้าการก่อสร้างอาคารสำนักงานเทศบาลฯว่า ผู้รับจ้าง คือ บริษัท เอ็ม.วี.เอส ดีเวลลอปเม้นท์ 1688 จำกัด  สัญญาเริ่มตั้งแต่วันที่ 29 ก.ย.58 ถึงวันที่ 20 พ.ค. 60  รวมระยะเวลา 600 วัน  งบประมาณ 178,050,000 บาท  ขณะนี้ได้ดำเนินการก่อสร้างได้ 21.132 เปอร์เซ็นต์ ล่าช้าไป 431  วัน อยู่ระหว่างการทำงานงวดที่ 4 เหลือเวลาทำงานอีก 49 วัน  จากงวดงานทั้งหมด 20 งวด เบิกจ่ายไปได้เพียง 3 งวดเท่านั้น  เป็นเงิน 25,461,150 บาท   โดยตั้งแต่วันที่ 21 พ.ค.60  ผู้รับจ้างจะต้องเสียค่าปรับให้กับเทศบาลวันละ 178,050 บาท  รวมทั้งจ่ายค่าจ้างบริษัทที่ปรึกษาคุมงาน 9,312.30 บาท  รวมเป็นเงิน 187,362.30  บาทต่อวัน

สำหรับปัญหาดังกล่าว ทางเทศบาลได้ดำเนินการเร่งรัดกับทางบริษัทที่ปรึกษา และบริษัทผู้รับจ้างทำงาน ซึ่งขณะนี้ ทางบริษัทผู้รับจ้างได้ส่งแผนวิกฤต เพื่อปรับแผนการทำงานใหม่  งวดที่ 5 ต้องเสร็จวันที่ 30 พ.ค.60  ซึ่งทั้งหมด  20 งวดงานจะต้องแล้วเสร็จในวันที่ 17 ต.ค.60   โดยจะมีการประชุมร่วมกันที่ไซต์งานเพื่อติดตามการก่อสร้างอย่างต่อเนื่อง ขณะเดียวกันทางผู้รับจ้างก็ต้องจ่ายค่าปรับวันละ 1.8 แสนบาท เนื่องจากเสร็จไม่ทันสัญญาที่กำหนด

ปลัดเทศบาลเมืองเขลางค์นคร กล่าวว่า  เรื่องจะยกเลิกสัญญาหรือไม่นั้น  ในขั้นแรกทางเทศบาลได้ให้สิทธิ์บริษัทที่ปรึกษา ซึ่งได้มีการจ้างเข้ามาควบคุมงาน ให้ประเมินว่าทางบริษัทผู้รับจ้างยังสามารถทำงานได้หรือไม่  แต่ตอนนี้เรายังให้โอกาสผู้รับจ้างทำงาน เนื่องจากได้มีการส่งแผนวิกฤตมาแล้ว  และทางบริษัทที่ปรึกษายืนยันว่าทางผู้รับจ้างยังสามารถทำงานได้อยู่  ถ้าเมื่อใดที่บริษัทที่ปรึกษาแจ้งว่า ผู้รับจ้างไม่สามารถทำงานได้แล้ว ก็ต้องอาศัยสัญญาในข้อ 5  ระบุว่า ถ้าผู้รับจ้างได้ลงมือทำงานภายในกำหนด และไม่สามารถแล้วเสร็จตามกำหนดเวลา หรือมีเหตุให้เชื่อได้ว่าไม่สามารถทำงานให้แล้วเสร็จ หรือจะแล้วเสร็จล่าช้ากว่ากำหนดเวลา หรือผู้รับจ้างทำผิดสัญญาข้อใดข้อหนึ่ง หรือตกเป็นผู้ล้มละลาย  หรือเพิกเฉยต่อการปฏิบัติตามคำสั่งของผู้ควบคุมงาน ที่ปรึกษา ซึ่งได้รับมอบอำนาจจากผู้ว่าจ้าง  ผู้ว่าจ้างมีสิทธิที่จะบอกเลิกสัญญานี้ได้

นายจาตุวัฒน์ กล่าวต่อไปว่า  นายกเทศมนตรีก็ไม่ได้ละเลย ท่านกำชับตลอดให้ติดตามเร่งรัด ติดตามแผนวิกฤตให้ทำตามแผนให้ได้ และกำชับว่าการประชุมของคณะกรรมการตรวจการจ้างทุกคนต้องไปร่วม  หากไม่มีภารกิจนายกฯจะเข้าไปดูหน้างานตลอด  การประชาสัมพันธ์ได้มีการประชุมประธานชุมชน และแจ้งให้ชุมชนทั้ง 63 ชุมชนทราบว่าความเคลื่อนไหวการก่อสร้างเป็นอย่างไร  วัตถุประสงค์ของนายกฯคือต้องการให้ทุกส่วนราชการมาอยู่ร่วมกัน ทุกวันนี้กระจัดกระจายอยู่กันหลายที่ งานกองการศึกษาอยู่ที่โรงเรียนแพะดอนตันเดิม  งานไฟฟ้างานกองช่างอยู่ที่บ้านบุญเกิด งานเครื่องจักรกลอยู่พระบาท ทำให้การบริหารจัดการล่าช้า เพิ่มค่าใช้จ่ายในการเดินทาง 

สิ่งที่นายกฯ วิตกกังวลมากคือ ต้องจ่ายค่าเช่าให้กับทีโอทีเดือนละประมาณ 1 แสนบาท เท่ากับปีละ 1.2 ล้านบาท  ล่าสุดนายกฯได้สั่งการมาว่า หากสัญญาการก่อสร้างสิ้นสุดวันที่ 20 พ.ค.60  ภาระในการจ่ายค่าเช่าได้แจ้งไปทางบริษัทผู้รับจ้างเป็นผู้รับผิดชอบ  เทศบาลจะไม่ใช้งบประมาณของเทศบาลจ่ายแล้ว เนื่องจากเป็นความรับผิดชอบของผู้รับจ้างที่ทำงานเสร็จล่าช้า ไม่ใช่ความผิดของเทศบาล ในส่วนของค่าปรับที่ต้องจ่ายวันละ 1.8 แสนก็ต้องจ่ายต่างหาก  คิดว่าน่าจะเริ่มในเดือน มิ.ย.นี้   เบื้องต้นจากการพูดคุยทางวาจา บริษัทยินดีที่จะจ่ายค่าเช่าให้ ซึ่งได้มีการแจ้งหนังสือไปแล้ว แต่ยังไม่มีหนังสือตอบกลับมา ปลัดเทศบาลฯ กล่าว