กฟผ.เผยค่าความต้องการใช้ไฟฟ้าสูงสุดทำสถิติใหม่ อยู่ที่ 29,680.3 เมกะวัตต์

เมื่อวันที่ 20 เมษายน 2562 นายเริงชัย คงทอง รองผู้ว่าการระบบส่ง การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย(กฟผ.) เปิดเผยว่า เมื่อเวลา 21.35 . ได้เกิดความต้องการใช้ไฟฟ้าสูงสุด (Peak) ใหม่ในระบบ กฟผ. อยู่ที่ 29,680.3 เมกะวัตต์ อุณหภูมิ (กทม.) 32.0 องศาเซลเซียส สูงกว่าสถิติ เดิมเมื่อวันที่ 11 พฤษภาคม 2559 เวลา 22.28 ที่ 29,618.8 เมกะวัตต์ อุณหภูมิ 33.0 องศาเซลเซียส เนื่องจากสภาพอากาศ ร้อน ทำให้ประชาชนเปิดแอร์ในภาคที่อยู่อาศัยจำนวนมาก

ด้านนายศานิต นิยมาคม ผู้ช่วยผู้ว่าการบริหารจัดการความยั่งยืน กฟผ. เปิดเผยว่า กฟผ.ยังคงเฝ้าติดตามสถานการณ์อากาศร้อนที่อาจส่งผลกระทบให้เกิดการใช้ไฟฟ้าสูงสุด(พีค)ในระบบของ กฟผ.(ไม่รวมการผลิตไฟฟ้าใช้เองหรือ Independent Power Supply -IPS ) ขึ้นได้อีก ทั้งนี้จากข้อมูลล่าสุดพบว่าแต่ละภาคของประเทศไทยได้เกิดพีคไฟฟ้าสูงสุดของปี 2562 ขึ้นแล้วในช่วงวันที่ 19-21 เม.. 2562 ที่ผ่านมา

โดยเขตนครหลวง เกิดพีคไฟฟ้าที่ 10,407 เมกะวัตต์ เมื่อวันที่ 19 เม.. 2562 เวลา 14.30 .

ภาคเหนือ เกิดพีคไฟฟ้าที่ 3,296.40 เมกะวัตต์ เมื่อวันที่ 19  เม.. 2562 เวลา 20.43 .

ภาคกลาง เกิดพีคไฟฟ้าที่ 10,746.10 เมกะวัตต์ เมื่อวันที่ 20 เม.. 2562 เวลา 20.30 .

ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ เกิดพีคไฟฟ้าที่  3,886.60 เมกะวัตต์ เมื่อวันที่ 20 เม.. 2562 เวลา 21.30 .

ภาคใต้ เกิดพีคไฟฟ้าที่ 2,726.90 เมกะวัตต์ เมื่อวันที่ 21 เม.. 2562 เวลา 20.39 .

ทั้งนี้ กฟผ. ได้เตรียมมาตรการรองรับการใช้ไฟฟ้าที่เพิ่มสูงขึ้นอย่างเพียงพอ ทั้งด้านการผลิต ด้านระบบส่งไฟฟ้า และด้านเชื้อเพลิง เพื่อรักษาความมั่นคงระบบไฟฟ้า อย่างไรก็ตามหากอากาศยังคงร้อนอบอ้าวอาจส่งผลให้เกิดพีคไฟฟ้าของประเทศได้อีกโดยเฉพาะในช่วงกลางคืน เนื่องจากไม่มีไฟฟ้าจากพลังงานแสงอาทิตย์มาช่วยลดพีคในช่วงค่ำ  กฟผ. มั่นใจว่ามีปริมาณสำรองไฟฟ้ากว่า 30% เพียงพอรองรับพีคไฟฟ้าของทั้งประเทศได้แน่นอน