หน่วยงานกรมชลประทาน ลงพื้นที่ปัจฉิมนิเทศรับฟังความคิดเห็นของประชาชนผู้มีส่วนได้เสียในจังหวัดลำปาง ครั้งที่ 3 ทบทวนร่างรายงานการศึกษาผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อมเบื้องต้น โครงการ “ก่อสร้างอ่างเก็บน้ำแม่จางตอนบน อันเนื่องมาจากพระราชดำริ”

สำนักงานชลประทานที่ 2 กรมชลประทาน เปิดเวทีจัดการประชุมสัมมนาปัจฉิมนิเทศ นำเสนอผลการศึกษาด้านสิ่งแวดล้อมในการจัดทำรายงานผลกระทบเบื้องต้น (IEE) โครงการ “ก่อสร้างอ่างเก็บน้ำแม่จางตอนบน อันเนื่องมาจากพระราชดำริ อำเภอแม่เมาะ จังหวัดลำปาง” พร้อมเปิดพื้นที่ให้ประชาชนชาวบ้านได้ร่วมแสดงความคิดเห็นครั้งที่ 3 ซึ่งเป็นรอบสุดท้าย ณ ที่ห้องประชุมใหญ่และอาคารศาลาประชาคม องค์การบริหารส่วนตำบลจางเหนือ อำเภอแม่เมาะ จังหวัดลำปาง โดยมีนายสิธิชัย  จินดาหลวง รองผู้ว่าราชการจังหวัดลำปาง เป็นประธานเปิดการสัมมนา พร้อมร่วมรับฟังการนำเสนอสรุปสาระสำคัญขอบเขตและรูปแบบแนวทางที่จะดำเนินงานตามโครงการฯ โดยมีตัวแทนประชาชนผู้มีส่วนได้เสียกว่า 400 คน จาก 7 กลุ่ม เข้าร่วมประชุมสัมมนาและแสดงความคิดเห็น ประกอบด้วย กลุ่มประชาชนผู้ได้รับผลกระทบโดยตรงในเขตพื้นที่, กลุ่มหน่วยงานรับผิดชอบศึกษาและพิจารณารายงาน IEE, กลุ่มหน่วยงานภาคราชการ, กลุ่มหน่วยงานด้านสาธารณสุขและการแพทย์, กลุ่มองค์กรเอกชนด้านสิ่งแวดล้อม สถานศึกษา ศาสนสถาน นักวิชาการอิสระ, กลุ่มสื่อมวลชน และกลุ่มประชาชนทั่วไป

ซึ่งในการประชุมสัมมนา สำนักงานชลประทานที่ 2 กรมชลประทาน และกลุ่มบริษัทที่ปรึกษาดำเนินการศึกษาและจัดทำรายงานการวิเคราะห์ผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อมเบื้องต้น ได้มีการนำเสนอสาระสำคัญของผลการศึกษาโครงการฯ ในทุกๆด้าน ทั้งด้านสภาพภูมิประเทศ ภูมิอากาศ ด้านอุทกวิทยาคุณภาพน้ำผิวดิน – น้ำใต้ดิน ด้านทรัพยากรดิน และพื้นที่สำคัญทางธรณีวิทยา ตลอดจนด้านวิศวกรรมโครงสร้าง การรับน้ำ การทนแรงสั่นสะเทือนแผ่นดินไหว เป็นต้น

นายสุชาติ  มาลาศรี ผู้อำนวยการสำนักงานชลประทานที่ 2 กล่าวว่า โครงการอ่างเก็บน้ำแม่จางตอนบน อันเนื่องมาจากพระราชดำริ ในการก่อสร้างจะมีพื้นที่น้ำท่วมบางส่วนของโครงการฯ อยู่ในเขตป่าสงวนแห่งชาติป่าแม่จาง (ตอนขุน) และป่าสงวนแห่งชาติป่าแม่งาวฝั่งขวา (โซน C) ประมาณ 107 ไร่ จึงจำเป็นที่จะต้องมีการจัดทำรายงานผลกระทบสิ่งแวดล้อมเบื้องต้น (IEE) เสนอต่อสำนักงานแผนนโยบายและแผนทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (สผ.) เพื่อนำเข้าสู่วาระการพิจารณาของคณะกรรมการผู้ชำนาญการพิจารณารายงานการวิเคราะห์ผลกระทบสิ่งแวดล้อม (คชก.) ด้านโครงการพัฒนาแหล่งน้ำและเกษตรกรรม เพื่อพิจารณาให้ความเห็นชอบต่อรายงานฯ และเสนอต่อคณะกรรมการพิจารณาการใช้ประโยชน์ในเขตป่าสงวนแห่งชาติ เพื่อประกอบการพิจารณาอนุญาตใช้พื้นที่ก่อสร้างตามขั้นตอน โดยโครงการอ่างเก็บน้ำแม่จางตอนบน อันเนื่องมาจากพระราชดำริ ที่จะดำเนินการก่อสร้างขึ้นนี้ เป็นโครงการอ่างเก็บน้ำขนาดกลาง ตั้งอยู่ในเขตบริเวณพื้นที่ชุมชนบ้านจางเหนือ หมู่ที่ 7 ตำบลจางเหนือ อำเภอแม่เมาะ ซึ่งเมื่อการก่อสร้างแล้วเสร็จจะสามารถกักเก็บน้ำไว้ใช้ได้มากกว่า 1.14 ล้าน ลบ.ม. และสามารถที่จะส่งน้ำช่วยเหลือสนับสนุนพื้นที่ทำการเกษตรได้มากกว่า 1,600 ไร่ ครอบคลุมชุมชนพื้นที่ 2 ตำบล คือ ตำบลจางเหนือ และตำบลนาสัก ซึ่งการรับฟังความคิดเห็นของประชาชนครั้งนี้ ถือเป็นการรับฟังความคิดเห็นสรุปประเด็นปัญหาเพิ่มเติมจากครั้งที่ผ่านมา ทั้งนี้เพื่อให้การศึกษาวิเคราะห์ผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อมและทรัพยากรธรรมชาติ เป็นไปอย่างรอบด้านและครอบคลุมผลกระทบในทุกมิติอย่างแท้จริง โดยจากการรับฟังความคิดเห็นประชาชนผู้มีส่วนได้เสียในพื้นที่ต่างเห็นชอบกับร่างรายงานผลสรุป และต่างเห็นพร้อมที่จะให้มีการก่อสร้างอ่างกักเก็บน้ำแม่จางตอนบนฯ

โดยนายฉลองชัย  ทิพย์ธารากร ผู้ใหญ่บ้านบ้านจางเหนือพัฒนา ได้เป็นตัวแทนชุมชนออกมากล่าวให้ข้อมูลว่า โครงการอ่างเก็บน้ำแม่จางตอนบน อันเนื่องมาจากพระราชดำริ เป็นโครงการที่ทางชุมชนพื้นที่มีต้องการเป็นอย่างยิ่ง เนื่องจากที่ผ่านมานานกว่า 10 ปี ชาวบ้านในพื้นที่ต่างต้องประสบกับปัญหาภัยแล้งขาดแคลนน้ำกินน้ำใช้ ทั้งเพื่อการอุปโภค บริโภค และเพื่อการเกษตร โดยหากโครงการอ่างเก็บน้ำแม่จางตอนบนฯ ได้รับการพิจารณาอนุมัติและดำเนินการก่อสร้างให้แล้วเสร็จ ก็จะสามารถช่วยแก้ไขปัญหาความเดือดร้อนให้กับชาวบ้านได้ ซึ่งจะมีชาวบ้านในชุมชนพื้นที่ 2 ตำบล 6 หมู่บ้าน ทั้งบ้านจางเหนือพัฒนา บ้านกอรวก บ้านนาแช่ บ้านนาสันติราษฎร์ ในเขตตำบลจางเหนือ และบ้านสบจาง บ้านทุ่งเลางาม ในเขตตำบลนาสัก รวมมากกว่า 1,200 ครัวเรือน ที่จะได้รับประโยชน์จากโครงการอ่างเก็บน้ำแม่จางตอนบน อันเนื่องมาจากพระราชดำริ ซึ่งจะเป็นทั้งแหล่งน้ำต้นทุนสำหรับเพื่อการอุปโภค-บริโภค และทำการเกษตรในฤดูฝนและฤดูแล้ง รวมถึงยังจะช่วยบรรเทาปัญหาอุทกภัยในฤดูน้ำหลาก โดยชาวบ้านในชุมชนพื้นที่ต่างคาดหวังที่จะให้โครงการอ่างเก็บน้ำแม่จางตอนบนฯ ได้รับการอนุมัติก่อสร้าง เพื่อชาวบ้านจะได้มีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น