เมื่อวันที่ 15 กุมภาพันธ์ 2561 ณ  รอบบี้โรงแรมแห่งหนึ่ง พ.ต.ท.พสิษฐ์ เก็งทอง รอง ผกก.4 บก.ปปป พร้อมกำลังตำรวจ กองบังคับการป้องกันปราบปรามการทุจริตและประพฤติมิชอบ (บก.ปปป.) ร่วมกับเจ้าหน้าที่สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตในภาครัฐ (ปปท.) เจ้าหน้าที่ตำรวจจังหวัดลำปาง ร่วมกันวางแผน เพื่อที่จะทำการจับกุม ผู้ต้องหารายหนึ่ง ที่รับราชการมียศ ร้อยตำรวจเอก ตำแหน่งรองสารวัตรสอบสวน ที่เรียกรับเงิน จากผู้เสียหายรายหนึ่ง เป็นชาวจังหวัดลำปาง ที่ได้ร้องเรียนไปยังส่วนกลาง

โดยร้องเรียนว่าเกิดเหตุลักทรัพย์บ้านหลังหนึ่ง ซึ่งเจ้าหน้าที่ตำรวจเข้าไปตรวจที่เกิดเหตุ พบลายนิ้วมือแฝง และพบว่าเป็นลายมือของผู้ร้องเรียนที่แจ้งเรื่องไปยังส่วนกลาง ซึ่งเมื่อก่อนผู้ร้องเรียนเคยทำงานที่บ้านหลังนี้จริงและลาออกเมื่อ 2 ปีที่แล้ว แต่กลับถูกตำรวจนายนี้เรียกเข้าไปสอบปากคำ ซึ่งไม่ได้มีเฉพาะลายนิ้วมือของผู้ร้องเรียนแต่ยังมีลายนิ้วมือของคนอื่นๆร่วมอยู่ด้วย  แต่ตำรวจนายนี้บอกว่าหากไม่อยากถูกดำเนินคดี สามารถที่จะลบลายนิ้วมือแฝงนี้ออกไปได้ แต่จะต้องนำเงินจำนวน 20,000 บาท มาให้ภายในวันที่ 15 กุมภาพันธุ์ 2561และจะได้จบคดีนี้

โดยผู้ร้องเรียนรายนี้ได้รวบรวมหลักฐานต่างๆส่งให้เจ้าหน้าที่ และวางแผนในการส่งมอบเงินจำนวนดังกล่าว โดยได้มีการนัดเจรจากันที่ร้านกาแฟแห่งหนึ่ง ก่อนที่จะเดินออกจากร้านแล้วไปส่งมอบเงินกันที่รถของร้อยตำรวจเอก คนดังกล่าวที่อยู่ห่างออกไปจากจุดนัดจุดแรกประมาณ 500 เมตร และเมื่อได้รับเงินไปแล้วทางเจ้าหน้าที่ที่สุ่มจับตาอยู่จึงได้เข้าไปแสดงตัวและควบคุมตัวร้อยตำรวจเอก พร้อมของกลางเป็นเงินสดจำนวน 20,000 บาท และควบคุมตัวมา สอบสวนที่ สภ.เมืองลำปาง และส่งพนักงานสอบสวนดำเนินการตามกฎหมายทันที

ด้านผู้ต้องหารายนี้คือ ร.ต.อ.กิตติกานต์ ยาลังกา รอง สว.สอบสวน สภ.เขลางค์ ได้กล่าวว่า พึ่งทำเป็นครั้งแรกและยอมรับผิดในสิ่งที่เกิดขึ้น

ร้อยตำรวจเอกรายนี้รับราชการตำรวจมาถึง 36 ปี ก่อนที่จะย้ายไปทำงานหลายแห่งจนล่าสุดย้ายมาประจำการที่ สภ.เขลางค์นคร ได้เพียง 4 เดือน และมาถูกจับดำเนินคดีในข้อหาเรียกรับผลประโยชน์ ด้าน พล.ต.ต.นิยม ด้วงศรี ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดลำปาง ได้มีคำสั่งให้ออกราชการ พร้อมกับดำเนินคดีตามกฎหมายให้ถึงที่สุด