จนกระทั่ง วันที่ 14 ก.ค.60 ที่ผ่านมา เท้าแชร์ได้เงียบไป เมื่อส่งข้อความไปทางเฟซบุ๊กและไลน์ ก็ไม่อ่าน ไม่ตอบกลับ และเริ่ม บล็อกเฟซบุ๊กสมาชิกบางคน ไม่สามารถติดต่อได้ จึงรู้ว่าต้องโดนโกงแน่ๆ จากนั้นได้มีการรวมกลุ่มกันตามหาตัวเท้าแชร์คนนี้ โดยการจ้างทีมงานหนึ่ง มาตามหาตัว แต่ก็ตามไม่เจอ ระหว่างนั้นได้มีการรวมกลุ่มกันไปร้องเรียนที่ศูนย์ดำรงธรรม เจ้าหน้าที่แนะนำมาว่าให้ไปแจ้งความที่ สภ.เกาะคา เพราะเป็นบ้านของเท้าแชร์ จึงไปติดต่อที่ สภ.เกาะคา ตำรวจท่านหนึ่งแนะนำให้กลับไปแจ้งความท้องที่ของแต่ละคน ซึ่งมีคนแจ้งความไว้เป็นบางส่วน ซึ่งตนเองก็ได้ลงบันทึกประจำวันไว้แล้ว เบื้องต้นทางเจ้าหน้าที่ตำรวจแนะนำว่า ให้รวมตัวกันหลายๆคนเพื่อเข้าไปแจ้งที่กองปราบ ในข้อหาฉ้อโกงประชาชน เพราะข้อหาจะได้หนักขึ้น หากแจ้งคนเดียวจะเป็นคดีฉ้อโกงเท่านั้น ตนเองก็พยายามติดต่อประสานงานกับกลุ่มผู้เสียหายอยู่ แต่ถ้าไม่มีใครร่วมมือด้วย ก็คงต้องแจ้งความข้อหาฉ้อโกงทรัพย์เพียงคนเดียว ซึ่งไม่รู้ว่าจะตามหาตัวเท้าแชร์รายนี้ได้หรือไม่ ถึงแม้จะไปตามหาที่บ้านแต่ก็ไม่เจอตัว รวมค่าเสียหายของคนที่โดนโกงเงินจากเท้าแชร์รายนี้ไม่ต่ำกว่า 5 ล้านบาท น.ส.อนุสรา กล่าวว่า ทุกวันนี้ลำบากมาก ต้องหาเงินมาใช้หนี้ที่ถูกโกงไป ต้องเอาทั้งบ้านทั้งรถต้องกู้หนี้ยืมสินหาเงินมา งานอะไรมีให้ทำก็ต้องทำหมดเพื่อจะหาเงินทุกบาททุกสตางค์มาใช้หนี้ เคยท้อถอยไม่รู้จะหาทางออกอย่างไร โชคดีที่ครอบครัวเข้าใจและคอยให้กำลังใจมาถึงทุกวันนี้ ตอนนี้เพียงแต่อยากต้องการตัวคนผิดมาลงโทษให้ได้เท่านั้น