ยังไม่จบ!!! เดินหน้าร้องสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ โดนรักษาการเจ้าอาวาสวัดดำรงธรรมลำปางใส่ร้าย แจ้งความดำเนินคดีแล้ว หลังออกหมายเรียกถึง 3 ครั้ง แต่ยังไร้วี่แวว
เมื่อวันที่ 18 ต.ค.2560 เวลา 09.00 น. นางตีคณา บุรพเกียรติ์ พร้อมครอบครัว ได้เดินทางไปยังสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ(พศ.) ต.ศาลายา อ.พุทธมณฑล จังหวัดนครปฐม เพื่อขอเข้าพบ พ.ต.ท.พงศ์พร พราหมณ์เสน่ห์ ผู้อำนวยการสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ เพื่อยื่นหนังสือร้องเรียนพระครูไกรสรวิลาส รักษาการเจ้าอาวาสวัดดำรงธรรม ต.สบตุ๋ย อ.เมือง จ.ลำปาง ในกรณีที่พระครูไกรสรวิลาสประพฤติไม่เหมาะสม กล่าวหานางตีคณาว่าเคยเป็นแม่เล้า โกงเงินวัดดำรงธรรม ใช้วาจาหยาบคายโดยได้พูดต่อหน้าญาติโยมจำนวนมาก ทำให้เสื่อมเสียชื่อเสียง และพระครูไกรสรวิลาสยังได้ส่งข้อความและรูปภาพของนางตีคณาผ่านทางไลน์ต่อๆกันไป ให้ยังญาติโยมเข้าใจผิดว่า นางตีคณา เป็น 18 มงกุฎ ซึ่งการยื่นหนังสือร้องเรียนครั้งนี้ นางตีคณาได้นำหลักฐานทั้งคลิปเสียงของพระครูไกรสรวิลาศและหลักฐานการส่งข้อความกล่าวหาทางไลน์ เข้าร้องเรียนด้วย
ในการยื่นหนังสือร้องเรียนครั้งนี้ พ.ต.ท.พงศ์พร พราหมณ์เสน่ห์ ผู้อำนวยการสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ ได้รับหนังสือร้องเรียนด้วยตนเอง ก่อนจะให้นายประทีป มูลลาภ ผู้อำนวยการกลุ่มคุ้มครองพระพุทธศาสนา สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ เข้ารับหนังสือร้องเรียนโดยตรงกับนางตีคณา ซึ่งนายประทีป กล่าวว่า หลังจากได้รับหนังสือร้องเรียนแล้ว จะดำเนินการอย่างเร่งด่วนเพื่อหาข้อเท็จจริง และจะให้ความเป็นธรรมทั้งสองฝ่าย แต่ต้องเป็นไปตามกระบวนระเบียบและขั้นตอนของการร้องเรียน อาจจะต้องใช้เวลาสักระยะ ยืนยันจะให้ความเป็นธรรมทั้งสองฝ่ายอย่างแน่นอน
ซึ่งหลังจากยื่นหนังสือร้องเรียนไปแล้ว ในวันที่ 30 ต.ค.2560 ผู้สื่อข่าวได้โทรศัพท์ไปสอบถามความคืบหน้ากับนายสงคราม ไชยนาม เจ้าพนักงานการศาสนาชำนาญงาน สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ ซึ่งเป็นผู้ดูแลเรื่องร้องเรียนดังกล่าว ซึ่งนายสงคราม ได้กล่าวว่า หลังจากได้รับหนังสือร้องเรียนมา ก็ได้อ่านและทำความเข้าใจกับเรื่องที่เกิดขึ้นแล้ว และได้ทำการประชุมหารือกับทางผู้บังคับบัญชา ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างการพิจารณาว่าทางเจ้าหน้าที่จะลงพื้นที่ที่จังหวัดลำปางหรือไม่ ซึ่งยังคงต้องรอการประชุมหาข้อสรุปอีกครั้ง แต่เบื้องต้นของการที่ได้รับหนังสือร้องเรียนมา ทางสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ ก็จะทำหนังสือส่งให้ทางเจ้าคณะจังหวัดลำปางเพื่อให้พิจารณา และทำหนังสือแจ้งไปยังผู้ว่าราชการจังหวัดลำปาง เพื่อให้ทางผู้ว่าราชการจังหวัดลำปางมอบให้สำนักงานพระพุทธจังหวัดลำปาง ไปถวายความสะดวกและถวายคำแนะนำแก่เจ้าคณะจังหวัดลำปาง และจะทำหนังสือแจ้งไปยังพระครูไกรสรวิลาศ รักษาการเจ้าอาวาสวัดดำรงธรรมด้วย ซึ่งในเรื่องนี้นายสงครามยังกล่าวอีกว่า เป็นเรื่องที่ค่อยข้างร้ายแรงและซับซ้อนอยู่มาก จะต้องมีการหารือหลายฝ่ายและต้องทำการอย่างรอบครอบ หากตรวจสอบแล้วพบว่าพระครูไกรสรวิลาสทำผิดจริง ก็ต้องดำเนินการตามความผิด
ทางด้าน นางตีคณา บุรพเกียรติ์ ผู้ร้องเรียน กล่าวว่า สาเหตุที่ตนมายื่นหนังสือร้องเรียนถึงสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ ก็เพราะที่ผ่านมาตนและครอบครัวได้ไปยื่นหนังสือร้องเรียนหลายที่ ทั้งทางเจ้าคณะจังหวัดลำปาง รองเจ้าคณะจังหวัดลำปาง เจ้าคณะอำเภอเมืองลำปาง รวมถึงพระครูโสภณพิพัฒนาทร เจ้าคณะตำบลสบตุ๋ย เจ้าอาวาสวัดท่าคราวน้อย ซึ่งเป็นผู้บังคับบัญชาของพระครูไกรสรวิลาศ แต่ก็ไม่เป็นผลและไม่ได้รับความเป็นธรรมแต่อย่างใด แม้ทางเจ้าคณะตำบลสบตุ๋ยกับตน ได้ตกลงและนัดให้พระครูไกลสรวิลาสเข้ามาขอโทษและทำหนังสือว่ากล่าวตักเตือน หากไม่มาทางเจ้าคณะตำบลสบตุ๋ยรับปากว่าจะทำการปลดพระครูไกรสรวิลาสออกจากตำแหน่งรักษาการเจ้าอาวาสวัดดำรงธรรม แต่เมื่อถึงเวลาพระครูไกรสรวิลาสไม่มา และเจ้าคณะตำบลสบตุ๋ยก็ไม่ได้ปลดพระครูไกรสรวิลาสออกจากตำแหน่งรักษาการเจ้าอาวาสตามที่ได้รับปากตนไว้ ส่วนสำนักงานพระพุทธศาสนาจังหวัดลำปาง ก็เคยไปยื่นหนังสือร้องเรียนแล้วแต่ก็เงียบไป แม้พระครูไกรสรวิลาศเคยได้ให้สัมภาษณ์แก่สื่อมวลชนและยอมรับสารภาพว่าได้พูดจาใส่ร้ายและส่งข้อความใส่ร้ายทางไลน์ว่าเป็น 18 มงกุฎจริง แต่ก็ไม่เคยได้รับความเป็นธรรมจากหน่วยงานใดเลย แต่ก่อนหน้านี้ไม่กี่อาทิตย์มีเจ้าหน้าที่จากศูนย์ดำรงธรรมจังหวัดลำปาง โทรมาบอกว่าทางวัดดำรงธรรมขอไกล่เกลี่ย ซึ่งตนก็ตอปฏิเสธการขอไกล่เกลี่ย เนื่องจากเคยให้โอกาสพระครูไกรสรวิลาสเข้ามาไกล่เกลี่ยแล้ว แต่กลับไม่ยอมมา
(หลักฐานทางไลน์ที่พระครูไกรสรวิลาส รักษาการเจ้าอาวาสวัดดำรงธรรม ใส่ร้ายศรัทธาชาวบ้านผ่านทางไลน์)
หลักฐานคลิปเสียงพระครูไกรสรวิลาส รักษาการเจ้าอาวาสวัดดำรงธรรม ใส่ร้ายศรัทธาชาวบ้าน
ทั้งนี้หลังจากเกิดเรื่องและไม่ได้รับความเป็นธรรม ก่อนที่จะเดินทางไปยื่นหนังสือร้องเรียนที่สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ ตนได้ไปแจ้งความดำเนินคดีกับทางพระครูไกรสรวิลาสไว้แล้ว ในข้อหาหมิ่นประมาท ซึ่งหลังจากแจ้งความดำเนินคดีแล้ว ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ทำหนังสือเชิญให้มารับทราบข้อกล่าวหา แต่พระครูไกรสรวิลาศไม่ยอมมา เจ้าหน้าหน้าที่ตำรวจจึงได้ออกหมายเรียกครั้งที่ 1 ซึ่งพระครูไกรสรวิลาสได้อ้างว่าไม่อยากพิมพ์ลายนิ้วมือเพราะจะอาบัติ เมื่อถึงกำหนดไม่มาทางเจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้ออกหมายเรียกครั้งที่ 2 ซึ่งพระครูไกรสรวิลาสก็ได้อ้างอีกว่าช่วงเดือนตุลาคมติดกิจนิมนต์หลายงาน จึงได้ทำหนังสือขอเลื่อนการเข้ามารับทราบข้อกล่าวหา และเมื่อถึงกำหนดไม่มาทางเจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้ออกหมายเรียกเป็นครั้งที่ 3 และหากครั้งนี้ไม่มารับทราบข้อกล่าวหาตามที่กำหนด ก็จะทำการออกหมายจับต่อไป
นางตีคณา ได้กล่าวอีกว่า พระครูไกรสรวิลาส หรือที่รู้จักกันในนามพระครูติ่ง อายุ 23 ปี ประพฤติไม่เหมาะสมในเพศบรรพชิต วาจาที่พระครูไกรสรวิลาศได้กล่าวออกไปเป็นคำหยาบคาย สร้างความเสื่อมเสียให้กับตนครอบครัว ทำให้ตนและครอบครัวถูกดูถูกเหยียดหยาบ ถูกเกลียดชังจากผู้ที่ไม่รู้ความจริง และทุกครั้งที่พระครูไกรสรวิลาศได้กล่าวหาก็ไม่เคยมีหลักฐานใด ๆ มาแสดง เพื่อชี้ความผิดของตนและครอบครัวเลย
ทั้งนี้เรื่องเกิดจากที่นางตีคณา บุรพเกียรติ์ และครอบครัว ได้เข้ามาเป็นเจ้าภาพในการสานต่อทำพระพุทธรูป ที่ทางวัดดำรงธรรมได้สร้างไม่เสร็จและค้างคาไว้นาน 6 เดือน พระพุทธรูปมีขนาดหน้าตัก 6 ม. สูง 9 ม.
(ภาพพระพุทธรูปที่ทางวัดดำรงธรรมได้ทำค้างคาไว้ไม่เสร็จ)
หลังจากนางตีคณาและครอบครัวเข้ามาทำพระพุทธรูปต่อก็ได้ใช้งบประมาณ จำนวน 150,000 บาท และนางตีคณายังได้รับเป็นเจ้าภาพทำฉัตรหลวง 9 ชั้น เพื่อประดิษฐานไว้เหนือเศียรพระพุทธรูป ใช้งบประมาณอีก จำนวน 120,000 บาท ดำเนินการทำจนแล้วเสร็จภายใน 5 เดือน ซึ่งนางตีคณาได้เป็นเจ้าภาพในการประกอบพิธีถวายเป็นสมบัติของพระพุทธศาสนาไปแล้วเมื่อวันที่ 11 มิ.ย.2560 แต่หลังจากนั้นเพียง 1 วัน พระครูไกรสรวิลาส ได้กล่าวหาว่านางตีคณาและครอบครัวเป็น 18 มงกุฎ ขโมยเงินวัดไป และขโมยเงินซองในวันงานพิธียกฉัตร ที่มีแขกผู้มีเกียรติได้มาร่วมทำบุญ อีกทั้งยังกล่าวหาว่าครอบครัวบุรพเกียรติ์ ไปหลอกเอาเงินวัดมาหลายที่ เอาชื่อวัดดำรงธรรมไปหากิน และแอบทำซองวัดไปแจก และได้พูดจากล่าวหาว่า นางตีคณาเคยเป็นแม่เล้ามาก่อน กระทั่งพระครูไกรสรวิลาส ต้องจำนนด้วยหลักฐานและออกมายอมรับแก่สื่อมวลชนว่าได้ใส่ร้ายนางตีคณาและครอบครัวจริงตามที่เคยเป็นข่าว นางตีคณาจึงได้ร้องเรียนและเรียกร้องให้เจ้าคณะตำบลสบตุ๋ย พิจารณาพฤติกรรมของพระครูไกรสรวิลาส ก่อนที่นางตีคณาจะแจ้งความดำเนินคดี แต่ทางเจ้าคณะตำบลได้ร้องขอให้มีการไกล่เกลี่ยก่อน และยืนยันว่าพระครูไกรสรวิลาสจะมาตามนัดไกล่เกลี่ยแน่นอน หากไม่มาจะทำการปลดออกจากรักษาการเจ้าอาวาสวัดดำรงธรรม แต่เมื่อถึงเวลาพระครูไกรสรวิลาสกลับไม่มาตามนัดหมายดังกล่าว…
(ภาพพระพุทธรูปหลังได้ดำเนินการทำเสร็จสมบูรณ์แล้ว)
(ภาพบรรยากาศงานพิธียกฉัตรหลวง วัดดำรงธรรม จังหวัดลำปาง เมื่อวันที่ 11 มิ.ย.60)